ระยะสุดท้ายของโรคไต ผู้ป่วยมักมีผลตรวจ BUN มากกว่า 100 มิลลิกรัมต่อเดซฺลิตร หรือค่าคริเอตินินสูงกว่า 8 - 10 มิลลิกรัมต่อเดซิลิตร อาการที่ผิดปกติที่เห็นได้ชัดเจนได้แก่
1. อาการทางระบบประสาท และทางระบบทางเดินอาหาร เนื่องจากการคั่งสารยูเรีย หรือภาวะยูรีเมีย ซึ่งเกิดจากการที่มีสารยูเรียที่ได้จากขบวนการสลายโปรตีนที่หมดสภาพในร่างกาย สายยูเรียเป็นของเสียที่รบกวนการทำงานของทุกส่วนในร่างกาย โดยเฉพาะระบบประสาท และเปลี่ยนรูปเป็นแอมโมเนียได้ ผู้ป่วยอาจหายใจมีกลิ่นคล้ายแอมโมเนีย อาการผิดปกติในระยะนี้แสดงออกมาให้เห็นทางระบบประสาท และทางระบบทางเดินอาหารกล่าวคือ ทางระบบประสาท ผู้ป่วยมักมีอาการมึนงง สับสน พูดจาไม่รู้เรื่อง ไม่มีเหตุผล จำวัน เวลาสถานที่ไม่ได้ และเมื่อเป็นมากขึ้น ก็อาจมีอาการกระตุก ซึมหมดสติ และอาจมีอาการชัก ส่วนอาการทางระบบทางเดินอาหาร ได้แก่ เบื่ออาหาร สะอึก คลื่นไส้ อาเจียน มีแผลในปาก ท้องเดิน เป็นต้น
2. ความดันโลหิตสูง และบวม เนื่องจากการคั่งของน้ำและเกลือโซเดียม ทำให้เกิดอาการบวม ความดันโลหิตสูง ควบคุมได้ยาก ในกรณีที่รุนแรงมากอาจมีภาวะการบีบตัวของหัวใจล้มเหลว ทำให้ผู้ป่วยมีอาการหอบ เหนื่อย แน่นหน้าอก นอนราบไม่ได้ หากมีระดับเกลือโพแทสเซียม ในเลือดขึ้นสูง ก็อาจก่อให้เกิดภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะ จนอาจหยุดกะทันหัน ทำให้ผู้ป่วยเสียชีวิต
3. อาการทางสมอง เนื่องจากการคั่งของกรดในเลือด ทำให้ผู้ป่วยหอบ และมีอาการทางสมอง เช่น มึนงง สับสน พูดจาไม่รู้เรื่อง ไม่มีเหตุผล จำวัน เวลาสถานที่ไม่ได้ และเมื่อเป็นมากขึ้น ก็อาจมีอาการกระตุก ซึมหมดสติ และอาจมีอาการชักเป็นมากขึ้นด้วย แพทย์ทราบได้ว่า เลือดมีภาวะเป็นกรด โดยดูค่าคาร์บอนไดออกไซด์ที่วิเคราะห์ได้จากผลการตรวจเลือดว่ามี ค่าต่ำมาก ซึ่งมักต่ำกว่า 15 มิลลิโมลต่อลิตร
4. โลหิตจาง เนื่องจากการขาดฮอร์โมนที่กระตุ้นไขกระดูกให้สร้างเม็ดเลือดแดง ทำให้ผู้ป่วยมีโลหิตจาง เมื่อเริ่มมีอาการดังกล่าวปรากฏ แม้ว่าอาจยังไม่เห็นได้ชัดเจน แพทย์ผู้รักษาก็มักเริ่มให้ผู้ป่วย เริ่มการฟอกเลือดได้ ทั้งนี้เพื่อป้องกันมิให้เกิดอาการที่รุนแรง อันอาจเป็นอันตรายถึงชีวิตได้
ผู้ป่วยหรือญาติผู้ป่วยจำนวนไม่น้อยเข้าใจว่า การฟอกเลือดจะทำให้อาการผู้ป่วยทรุดลงไปอีก ทั้งนี้เพราะเคยเห็นตัวอย่าง ผู้ป่วยที่ตัดสินใจยอมให้แพทย์รักษาด้วยการฟอกเลือด ต่อเมื่อปล่อยให้เกิดภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรงแล้ว ตังนั้นจึงขอย้ำว่าในปัจจุบัน มีแนวโน้มที่จะให้การรักษาด้วยการฟอกเลือดเร็วขึ้น
ประสบการณ์จากผู้ใช้ปู่จิงตัน
ท่านอาจารย์ วีระชัย ทองสา ป่วยเป็นโรคไต ขั้นเตรียม "ฟอกไต" อีก 3 วัน (รอเครื่องฟอกไตและห้องว่าง) ได้รับผลิตภัณฑ์ ปู่จิงตัน 1 ขวด รับประทาน 4 แคปซูล หลังอาหาร 3 มื้อ 2-3 วันก่อนกำหนดไปฟอกไต พอถึงวันฟอกไต ได้ถุกยกเลิกการเข้าฟอกไต เพราะ ดูจากตัวเลขการตรวจและน้ำปัสสาวะที่ออกมา แสดงว่า ไตดีขึ้น ไม่จำเป็นต้องฟอกแล้ว (ตามความเห็นขอแพทย์)
ท่านอาจารย์ วีระชัย ทองสา ป่วยเป็นโรคไต ขั้นเตรียม "ฟอกไต" อีก 3 วัน (รอเครื่องฟอกไตและห้องว่าง) ได้รับผลิตภัณฑ์ ปู่จิงตัน 1 ขวด รับประทาน 4 แคปซูล หลังอาหาร 3 มื้อ 2-3 วันก่อนกำหนดไปฟอกไต พอถึงวันฟอกไต ได้ถุกยกเลิกการเข้าฟอกไต เพราะ ดูจากตัวเลขการตรวจและน้ำปัสสาวะที่ออกมา แสดงว่า ไตดีขึ้น ไม่จำเป็นต้องฟอกแล้ว (ตามความเห็นขอแพทย์)
กินปูจินตันแล้ว
ไม่ต้องฟอกไต (ยืนยันด้วยตัวเองแล้ว)
ท่านอาจารย์ วีระชัย ทองสา ขอยืนยันว่าการกิน ปู่จิงตัน ทำให้โอกาสการฟอกไต ลดลง กินปู่จิงตัน ไม่ต้องฟอกไต
ปัจจุบัน ผลิตภัณฑ์ ปู่จิงตัน (PUJINGTUN) สามารถป้องกันและแก้ปัญหา โรคไต ไตวาย ได้ผลจริงปริมาณและราคา 1 ขวดบรรจุ 60 แคปซูล ราคา 900 บาท
อย. เลขที่ 13-1-02950-1-0036
สั่งสินค้าคลิกที่นี้
ดูข้อมูลที่ http://pujingtunsaibua.blogspot.com
สั่งซื้อและเป็นตัวแทนจำหน่ายที่
คุณ สายบัว บุญหมื่น
โทร.088 415 3926
ID Line : bua300908
อีเมล์ sboonmuen@gmail.com
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น